การจัดการการตลาดแนวใหม่

Custom Search
วันศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2553

สูตรการคำนวณของอัตราส่วนทางการเงินที่กล่าวถึงคือ

สูตรการคำนวณของอัตราส่วนทางการเงินที่กล่าวถึงคือ
P/E = Price/EPS = Price/(Net Profit/Number of Share)
P/BV = P/BV = Price/(Equity/Number of Share)
ROE = Return/Equity = (Net Profit/Equity)
จากสูตรด้านบน เมื่อมาดูความสัมพันธ์ของสูตรแต่ละตัวจะได้ว่า
P/BV = P/E x ROE
ทีนี้เมื่อเราลองพิจารณาหลักการเลือกซื้อหุ้นทั่วไปที่มักจะแนะนำให้ซื้อหุ้นที่มีค่า P/BV และ P/E ต่ำๆ แต่ค่า ROE สูงๆซึ่งเมื่อดูจากสูตรความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทั้งสามแล้ว จะเห็นว่ามีส่วนที่ขัดแย้งกันอยู่คือหากหุ้นมีค่า ROE สูง ค่า P/BV ก็จะต้องสูงตามไปด้วย ทีนี้จะเลือกหุ้นยังไงดีล่ะ
ถ้าคุณเป็นนักลงทุนในแนวเบนจามิน เกรแฮม (Benjamin Graham) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นที่มีราคาถูกก็คงจะต้องเลือกหุ้นที่มีค่า P/BV ต่ำและ P/E ต่ำแต่ถ้าคุณเป็นนักลงทุนในแบบของวอร์เรน บัฟเฟตต์แล้วล่ะก็ คุณคงจะเลือกลงทุนในหุ้นที่มีค่า P/E ไม่สูงมากนัก และมีค่า ROE ที่สูงอย่างต่อเนื่อง(ROE อย่างน้อย 12% ติดต่อกันเป็นเวลานานหลายปี) ซึ่งก็คือหุ้นของบริษัทที่มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
ปํญหาในการดูแต่ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงๆ ก็คือส่วนของผู้ถือหุ้นนั้นสามารถลดลงได้หากบริษัททำการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นหรือการซื้อหุ้นคืนจากตลาด ซึ่งจะทำให้ ROE ของบริษัทสูงขึ้น ดังนั้นนักลงทุนจึงควรดูผลตอบแทนต่อเงินลงทุนทั้งหมดเพิ่มเติม โดย
Return On Total Capital (ROTC) = EBIT/(Equity + Debt)
นักลงทุนควรที่จะมองหาบริษัทที่มี ROTC ที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมออย่างน้อย 12% ขึ้นไป
สุดท้ายนี้เราลองย้อนมาดูกันหน่อยว่าเมื่อไหร่ที่เราควรจะเลือกซื้อหุ้นของบริษัทที่มี P/BV ต่ำและ ROE ต่ำ
เมื่อนักลงทุนไม่มีความรู้หรือไม่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในหุ้นที่มี P/E และ P/BV ต่ำหลายๆตัว (อย่างต่ำสัก 10 ตัว) เป็นหลักการลงทุนที่มีการพิสูจน์มาระดับหนึ่งแล้วว่าให้ผลตอบแทนที่ชนะตลาดได้
เมื่อเจอหุ้นที่มีพื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่นหุ้นตัวหนึ่งที่มีค่า P/BV ต่ำ และในอดีตอาจจะมีผลกำไรที่ไม่ค่อยดีทำให้มีค่า ROE ต่ำอยู่นาน แต่ถ้าเรามีข้อมูลเพียงพอว่าบริษัทมีพื้นฐานที่เปลี่ยนไปเช่นมีการลงทุนในโครงการบางอย่างที่ได้ผลดีมากและสามารถสร้างกำไรในอนาคตได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้ ROE ในอนาคตจะเพิ่มสูงขึ้น หุ้นแบบนี้โอกาสที่จะกำไรหลายๆเท่าต้วนั้นมีสูงมาก ซึ่งหุ้นพวกนี้เห็นได้บ่อยๆในกลุ่มธุรกิจวัฏจักร ที่อยู่ในช่วงต่ำสุดของ Cycle และกำลังมีแนวโน้มที่ดี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การจัดการการเงิน